คำถามที่พบบ่อย

การดริปวิตามิน หรือ Intravenous Vitamin Therapy หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IV Drip หมายถึง การให้วิตามินและสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกายโดยตรง  กระบวนการดริปวิตามินนั้นมีขั้นตอนเหมือนกับการให้สารน้ำในโรงพยาบาล ที่จะค่อย ๆ หยดเข้าสู่หลอดเลือดดำและถูกดูดซึมเข้าร่างกายทันที ทำให้ร่างกายสามารถนำแร่ธาตุ วิตามินต่างๆ รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จำเป็นต่อร่างกายไปใช้ประโยชน์ได้ทันที  วิธีนี้จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินโดยตรง 100% เนื่องจากไม่ผ่านระบบย่อยอาหารและไม่ผ่านการทำงานของตับ วิตามินที่ได้รับจึงเข้าไปฟื้นฟู บำรุงร่างกายและผิวพรรณได้อย่างรวดเร็วทันใจและมีประสิทธิภาพ สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ไวขึ้นกว่าการรับประทานมาก รวมถึงปลอดภัยต่อร่างกายด้วย 

การดริปวิตามินมีประโยชน์มากมาย ขึ้นอยู่กับสูตรของวิตามินแต่ละสูตร โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินชนิดและปริมาณของวิตามินให้เหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการของร่างกายที่แตกต่างกันของแต่ละคน  จึงมีทั้งการดริปวิตามินเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกายให้รู้สึกหายจากความอ่อนเพลีย เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง บำรุงผิวพรรณให้ขาวสดใสไม่หมองคล้ำ รวมถึงการชะลอวัย ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ร่างกายได้วิตามินครบถ้วน เพราะวิตามินบางตัวจะสลายหายไปเมื่อเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ไม่สามารถสามารถดูดซึมผ่านระบบย่อยอาหารได้นั่นเอง

  การดริปวิตามินไม่เป็นอันตรายหากอยู่ในการดูแลของแพทย์  เพราะทางแพทย์ของเรานั้นได้ควบคุมและคัดสรรวิตามินสูตรที่มีความปลอดภัย และแพทย์มีการตรวจประเมินร่างกายและซักประวัติการแพ้ยาและอาหารก่อนทุกครั้ง อีกทั้งวิตามินที่ทางคลินิกเลือกใช้ก็เป็นวิตามินที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพสูงและปลอดภัย รวมถึงมีการดูแลให้บริการที่ดีเยี่ยมจากพยาบาลมืออาชีพอย่างใกล้ชิด

ผลข้างเคียงอาจมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับการที่ร่างกายของเราทำปฏิกิริยากับวิตามินตัวต่างๆ ที่ได้รับ อาทิ เช่น NAD+  การให้NAD+ อาจมีผลข้างเคียงในบางราย เช่น หัวใจเต้นเร็ว ปวดหัวเล็กน้อย มวนท้อง ฯลฯ อาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากการให้วิตามินสิ้นสุดลง ซึ่งแพทย์จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบก่อนการรักษา และในระหว่างการให้วิตามินNAD+ การดื่มน้ำเปล่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้น

 1. แนะนำให้ผู้รับบริการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย

2. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1-2 วัน

3. งดหรือหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

1. ไม่ควรดริปวิตามินในขณะท้องว่าง ควรรับประทานอาหารมาให้เรียบร้อย 

2. ควรดื่มน้ำเปล่า ก่อนและหลัง การดริปวิตามินในปริมาณมากๆ

3. หลังจากที่เตรียมตัวเสร็จเเล้ว แพทย์จะทำการซักประวัติและประเมินอย่างละเอียดว่าควรจะได้รับวิตามินสูตรไหน

4. จากนั้นพยาบาลจะทำการให้วิตามินผ่านสารน้ำเข้าสู่ร่างกาย

5. ผู้รับบริการจะได้นอนพักผ่อนขณะดริปวิตามินไปด้วย โดยระยะเวลานั้นจะขึ้นอยู่กับวิตามินแต่ละสูตร และการรับไหวของร่างกายแต่ละคน ช่วงเวลาเฉลี่ยประมาณ 40-90 นาที 

6. เมื่อรับบริการเสร็จ หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือ ถูบริเวณที่ได้รับวิตามิน หากมีรอยแดง เขียว ช้ำ แผลในดีขึ้นใน 1-2 วัน 

หากต้องการให้เห็นผลทันใจ แนะนำว่าในช่วงเดือนแรกๆ ควรดริปสัปดาห์ละ 1 ครั้ง  และค่อยๆ ปรับเป็น 2 สัปดาห์ต่อครั้งได้  ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้การแนะนำของแพทย์

การดริปวิตามินจริงๆ แล้วเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลตนเอง อยากแก้ไขปัญหาของร่างกายที่เสื่อมสภาพตามอายุ หรือมีปัญหาสุขภาพในรูปแบบต่างๆ (ไม่ใช่การรักษาโรค)  อาทิ เช่น 

1.  ผู้ที่อยากเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
2.  ผู้ที่ขาดวิตามินและต้องการบำรุงอย่างเร่งด่วน
3. ผู้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เหนื่อยล้า ไม่มีเวลาดูแลตนเอง
4. ผู้ที่มีความเครียดสะสม ร่างกายตึงเกร็งโดยไม่รู้สาเหตุ 
5. ผู้ที่อยากบำรุงให้ผิวขาวใส มีออร่า เห็นผลไว
6. ผู้ที่อยากดีท็อกซ์สารตกค้างในร่างกาย
7. ผู้ที่อยากเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น
8. ผู้ที่อยากกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น
9. ผู้ต้องการมีสุขภาพดีจากภายในอย่างแท้จริง
10. ผู้ที่ต้องการดูอ่อนกว่าวัย ชะลอวัยอย่างมีสุขภาพดี

หญิงมีครรภ์ และผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่ายังอยู่ในภาวะที่ไม่พร้อมในการดริปวิตามิน